เมื่อเศรษฐกิจเจริญเติบโตดี และวิวัฒนาการด้านการแพทย์ก็เจริญรุดหน้าไปมาก เกิดการบริโภคอย่างถูกโภชนาการ ร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาวขึ้น ทำให้จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ทั่วโลกก็ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแบบเต็มตัว เมื่ออายุมากขึ้น แน่นอนล่ะ สมรรถภาพร่างกายก็ย่อมเสื่อมลงตามเวลา ส่งผลกระทบอวัยวะทั้งภายในและภายนอก ซึ่งความเสื่อมสภาพนี้ก็นำมาซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคต่าง ๆ ได้มากมาย และหนึ่งโรคที่พบในผู้สูงวัยมากที่สุดคือ “โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน” แต่!! ไม่ใช่ว่าพอเราแก่ตัวไป
บรรดาโรคทั้งหลายจะมาทักทายเราทุกคน ถ้าเรารักษาสุขภาพ หมั่นดูแลตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าเจ้าโรคความดันหรือเบาหวานก็ทำอะไรเราไม่ได้ แต่หากใครที่กังวล ไม่รู้ว่าจะเริ่มดูแลตัวเองยังไง วันนี้เรามีทริคการใช้ชีวิตวัยเก๋า แบบไร้ความดันและเบาหวานมาฝากกัน
1. ทำจิตใจให้แจ่มใส พักผ่อนอย่างเพียงพอ
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยรอยยิ้ม พาตัวเองออกไปรับแสงแดดอุ่น ๆ ในยามเช้า เปิดเพลงที่ชอบอยู่กับน้องหมาน้องแมว และที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ มีเวลาทำกิจกรรมแล้วก็ต้องมีเวลาพักผ่อนด้วย
2. ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพของร่างกาย
อายุเลย 60 แล้ว จะให้มาต่อยมวย กระโดดเชือก หรือปีนเขาเหมือนตอนวัยรุ่นก็คงจะไม่เหมาะ เดี๋ยวร่างกายพังกันก่อน ควรเลือกการบริหารร่างกายที่ไม่สมบุกสมบันมากไป เช่น เดินกึ่งวิ่ง โยคะ การรำมวยจีน กายบริหารท่าต่าง ๆ จะส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่า
3. ใส่ใจและควบคุมโภชนาการให้เป็นไปอย่างเหมาะสมดีพอกับร่างกาย
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เลี่ยงการทานรสเค็มจัด และรสหวาน เพิ่มการกินผักและผลไม้ ทานธัญพืชไม่ขัดสี เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว ทานแต่พอดีไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป หากใครที่ติดน้ำหวาน น้ำอัดลม ก็เปลี่ยนมากินกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาลดู ใครที่ตัดหวานไม่ได้จริง ๆ อาจจะค่อย ๆ ลดน้ำตาลลงมาทีละนิด ทีละน้อย ค่อย ๆ ปรับไปเรื่อย ๆ และอีกสิ่งที่คนมักมองข้ามไปคือ ผลไม้ ขึ้นชื่อว่าผลไม้ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าผลไม้ทุกชนิดนั้นมีประโยชน์จะทานเท่าไหร่ก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลไม้บางประเภทมีน้ำตาลมากกว่าอาหาร แถมยังเพิ่มอันตรายให้กับผู้ป่วยเบาหวานอีกด้วย เช่น ทุเรียน มะม่วง สับปะรด ลำไย เงาะ กล้วย ลิ้นจี่ เป็นต้น ควรเปลี่ยนเลือกทานผลไม้ที่น้ำตาลต่ำใยอาหารสูง เช่น ชมพู่ แอปเปิ้ล สาลี่ ฝรั่ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่แทน ส่วนใครที่ชอบกินแกงกะทิที่คั้นจากมะพร้าวแท้ ๆ ลองเปลี่ยนมาเป็นกะทิที่ทำจากธัญพืชดู เพราะกะทิธัญพืชมีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว และโปรตีนจากถั่วเหลือง ไม่มีส่วนผสมของวัตถุกันเสีย ไม่มีการเติมสีหรือแป้ง และที่สำคัญไม่มีส่วนผสมของกะทิจากมะพร้าว และมีไขมันอิ่มตัวต่ำกว่ากะทิมะพร้าวถึง 4 เท่า
ปราศจากไขมันทรานส์ ทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องของคอเลสเตอรอลที่เป็นบ่อเกิดของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง แถมยังมีวิตามินอี (สารต้านอนุมูลอิสระ) จากธรรมชาติสูงด้วย และอีกประเด็นคือคนมักจะคิดว่าการกินไข่ในปริมาณเยอะนั้นจะส่งผลดีมีประโยชน์ แต่สำหรับผู้สูงอายุแล้ว การกินไข่ในปริมาณที่มากจนเกินไปจะส่งร้ายมากกว่าส่งผลดี เพราะไข่แดงเป็นอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง ถ้าหากจะกินอาหารที่มีไขมันก็ควรจะเป็นไขมันดี อย่างอโวคาโด ปลาแซลม่อน ปลาทูน่า เป็นต้น
4. ควรตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ
หมั่นตรวจสุขภาพทุกๆ 6-12 เดือนจะดีที่สุด โดยเฉพาะวัยสูงอายุแบบนี้ด้วยแล้ว โอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ย่อมมีสูงและหมั่นเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ในร่างกาย หากพบความผิดปกติขึ้น ควรรีบพบแพทย์ทันทีนะ
5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอลล์
บุหรี่กับเหล้าถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจที่พรากชีวิตของคนหลายคนเลยทีเดียวในวัยหนุ่มสาว การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้าอาจถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ในวัยที่สูงอายุการดื่มและสูบบ่อย ๆ คงไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อภูมิคุ้มกันต่าง ๆ และการทำงานของอวัยวะในร่างกายที่เสื่อมสภาพลงแน่นอน แต่สำหรับคนที่ดื่มเหล้ามาทั้งชีวิตแล้ว จะให้เลิกไปเลยง่าย ๆ ก็คงจะยาก ลองเปลี่ยนจากดื่มเหล้ามาเป็นไวน์แดงดู การดื่มอย่างถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสมก็จะเกิดคุณประโยชน์ต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะไวน์ที่เป็นผลผลิตจากองุ่น หรือผลไม้ชนิดต่าง ๆ
เนื่องจากอุดมไปด้วยสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้จากกระบวนการผลิตไวน์ที่แตกต่างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่น ๆ ซึ่งในไวน์แดงจะมีสารตัวนี้มากที่สุด อย่างไรก็ตามสำหรับผู้สูงวัยแล้วควรดื่มไวน์แดงแต่พอเหมาะ ประมาณ 1-2 แก้ว/วัน ในปริมาณไม่เกิน 120 มล./แก้ว เพื่อให้ได้รับประโยชน์ที่พอดีต่อร่างกาย เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับทริคง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ ถ้าทำได้ตามนี้รับรองเลยว่า โรคความดันและเบาหวาน หรือโรคอื่น ๆ ก็ไม่ถามหาแน่นอน แล้ววัยเก๋าอย่างเราก็จะใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้ มีชีวิตชีวาได้ในทุก ๆ วัน เมื่อร่างกายแข็งแรง สดชื่น ของแถมที่ตามมาก็หน้าตาผิวพรรณที่ดูเปล่งปลั่งสดใสนี่แหละ เผลอ ๆ หน้าเด็กลงไม่รู้ด้วย!!