มวลกล้ามเนื้อของเราจะฝ่อลงตามวัย ผู้สูงวัยหลายคนจึงประสบภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยปกติคนเราจะมีมวลกล้ามเนื้อสูงที่สุด (Peak Muscle Mass) ที่ช่วงอายุระหว่าง 30-40 ปี หลังอายุ 40 ปีไปแล้ว มวลกล้ามเนื้อจะลดลงเฉลี่ย 1-2 ต่อปี โดยไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน แต่หลังอายุ 50-60 ปี ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะลดลงด้วยเฉลี่ยร้อยละ 1.5 ต่อปี และลดลงเร็วขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายหลังอายุ 65 ปี จึงเพิ่มความเสี่ยงกระดูกหัก เปราะบาง และภาวะล้มในผู้สูงอายุ
ภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย (Sarcopenia) คือ การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของมวลกล้ามเนื้อ โดยทั่วไปมักเริ่มต้นตั้งแต่อายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มอาการของผู้สูงอายุ (Geriatric Syndrome) ที่พบบ่อยถึง 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุทั่วไป เมื่อเราอายุมากขึ้น 30 ปี และเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในวัย 60-80 ปี ซึ่งอาจทำให้เดินไม่สะดวก ล้มง่าย สูญเสียการทรงตัว และคุณภาพชีวิตลดลง
Dual-energy X-ray absorptiometry (DEXA หรือ DXA) เป็นการใช้รังสีเอกซเรย์กำลังต่ำเพื่อวัดมวลกล้ามเนื้อมวลไขมัน และความหนาแน่นของกระดูก
ใช้ Bioelectrical Impedence Analysis (BIA) ช่วยประเมินมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หากได้ค่าน้อยกว่า 7.0 กิโลกรัมต่อตารางเมตรในเพศชาย และน้อยกว่า 5.7 กิโลกรัมต่อตารางเมตรในเพศหญิง จึงจะถือว่าเข้าข่ายป่วยเป็นซาร์โคเพเนีย
การวัดแรงบีบมือ (Hand – Grip Strength) จะต้องมีแรงบีบไม่ต่ำกว่า 26 กิโลกรัมในเพศชาย และไม่ต่ำกว่า 18 กิโลกรัมในเพศหญิง
ตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูก กล้ามเนื้อ แร่ธาตุ และเปอร์เซ็นต์ไขมัน (Advance Bone Densitometer)